บทความนี้กล่าวถึงการทำ water popping ว่าคืออะไร และทำเพื่ออะไร
ก่อนอื่น water popping คืออะไร
water popping คือการที่เราใช้น้ำสะอาดลูบหรือเช็ดลงบนผิวไม้ดิบก่อนเคลือบด้วยวัสดุเคลือบผิวเช่น Oil เพื่อที่จะไปเปิดหรือ pop ร่องเสี้ยนบนผิวไม้ที่เรียบ โดยธรรมชาติของไม้ จะดูดซึมน้ำ และเซลของไม้จะขยายตัวขึ้นเมื่อดูดน้ำเข้าไป และเมื่อน้ำระเหยไปแล้ว เซลที่ขยายตัวจะยังคงเปิดอยู่
เมื่อไหร่ที่เราควรจะทำ water popping
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเรื่องผลของการขัดไม้ด้วยกระดาษทรายเสียก่อน ปกติไม้ที่เรานำมาทำเป็นไม้พื้นหรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ต้องผ่านการขัดเพื่อให้ได้ผิวที่เรียบเนียนสวย ปราศจากร่องรอยต่างๆบนผิวไม้เสียก่อน การขัดด้วยกระดาษทรายโดยไล่จากความละเอียดต่ำ ไปสูง การขัดให้ผิวไม้เรียบด้วยกระดาษทรายจะเป็นการปิดร่องเสี้ยนของไม้ ยิ่งขัดด้วยกระดาษทรายเบอร์ละเอียดสูงมากขึ้น ยิ่งทำให้ผิวไม้เรียบเนียนขึ้น เงาขึ้น ซึ่งเสี้ยนก็จะยิ่งปิดมากขึ้นด้วย
การแทรกซึมของวัสดุ
การทำงานของตัววัสดุเคลือบไม้ด้วย Oil เช่น Rubio Monocoat จะอาศัยการแทรกซึมเข้าไปกับเส้ยนไม้ ถ้าเสี้ยนไม้ยิ่งปิด การแทรกซึมก็ทำได้ยากขึ้น ถ้าเป็นตัวน้ำมันที่มีส่วนผสมของเม็ดสี (color pigment) เม็ดสีก็จะมีพื้นที่ยึดเกาะน้อยลง เป็นผลทำให้สีที่ลงดูอ่อนลง (less intense color)
ในกรณีเช่นนี้ การทำ water popping จะช่วยให้ เซลร่อยเสี้ยนเปิด เป็นผลให้ Oil แทรกซึมและยึดเกาะได้มากขึ้น จึงทำให้มีสีที่ลงดูเข้มมากขึ้น (more intense color)
ข้อผิดพลาดจากการขัดด้วยกระดาษทราย
การขัดด้วยกระดาษทราย บางครั้งจะทิ้งรอยจากการขัดไว้บนผิวไม้ ไม่ว่าจะเกิดจากปัญหาการเลือกเบอร์กระดาษทราย เทคนิคการขัด หรือเครื่องมือไม่สมบูรณ์ก็ตาม รอยต่างๆเหล่านั้น เมื่อมีการเคลือบด้วย Rubio Monocoat Oil Plus 2C แล้ว เม็ดสีจะเข้าไปเติมร่องรอยเหล่านั้นให้เด่นชัดขึ้นมา ซึ่งเราไม่ต้องการเห็นสิ่งเหล่านั้นอย่างแน่นอน
ในกรณีแบบนี้ water popping จะช่วยให้มองเห็นรอยต่างๆเหล่านี้ได้น้อยลง
การขัดไม่สม่ำเสมอ
การขัดที่เร่งรีบจนเกินไป หรือขัดไม่สม่ำเสมอ มีโอกาสทำให้ร่องเสี้ยนเปิดไม่สม่ำเสมอบนพื้นผิว เป็นผลให้การแทรกซึมของ Oil และเม็ดสีไม่เท่ากันบนผิวหน้าเดียวกัน และเช่นกัน water popping ก็จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ลง
ปล. การทำ water popping ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการเอาไว้ใช้เพื่อแก้ปัญหาขัดกระดาษทรายที่กล่าวด้านบนให้ดีขึ้น แต่ที่ถูกต้องแล้วคือควรจะพัฒนาคุณภาพการขัดกระดาษทรายให้ดีขึ้น เพื่อให้ได้สีที่เรียบเนียนและสม่ำเสมออย่างที่ต้องการ
ลักษณะผิวไม้ที่เป็นวงเป็นด่าง Blotchy apperance
ไม้บางชนิดเช่น ไม้เมเปิ้ล Maple มีเสี้ยนที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งจะดูดซึม oil ไม่สม่ำเสมอ ทำให้เกิดลักษณะที่สีเป็นด่างๆ การทำ water popping จะช่วยลดปัญหานี้ได้ด้วยเช่นกัน
ประโยชน์ของการทำ water popping
เราขอสรุปสั้นๆถึงประโยขน์ของการทำ water popping ไว้ดังนี้
- เม็ดสีแทรกซึมได้มากขึ้น ได้สีที่เข้มขึ้น
- ลดรอยเป็นวงๆที่มองเห็นได้จากการขัดกระดาษทราย
- ข่วยให้สีสม่ำเสมอขึ้นจากผิวที่ขัดไม่เท่ากัน
- ช่วยให้สีสม่ำเสมอขึ้นบนไม้ประเภทที่มีผิวเป็นวงเป็นด่าง Blotchy appearance
ตัวอย่างพื้นไม้โอ๊คขัดด้วยกระดาษทรายเบอร์ 80 แสดงให้เห็นตัวอย่างการทำ water popping
วิธีการทำ water popping
ก่อนอื่น หาน้ำสะอาดมาใช้ ถ้าไม่แน่ใจ ให้ซื้อน้ำแบบบรรจุขวดก็ได้ จากนั้นก็ลงน้ำด้วยผ้า ฟองน้ำ หรือแปรงให้ทั่วพื้นผิวในให้เปียกในปริมาณที่เหมาะสมไม่เป็นกองน้ำขัง จำไว้ว่าเป้าหมายคือให้ทั่วและเท่าๆกัน ไม่เน้นแฉะ
ข้อควรระวัง ควรลงให้ทั่วๆ ไม่มีจุดที่แห้งหรือเปียกแฉะเกินไป จะมีผลทำให้สีออกมาไม่สม่ำเสมอกัน
การทำ water popping บนพื้นไม้
วิธีที่ 1 ให้ผ้าหรือฟองน้ำ ชุบน้ำแล้วลูบไปบนพื้นไม้ให้ทั่วทั้งพื้นที่
วิธีที่ 2 ใช้เครื่องพ่นสเปรย์ละอองน้ำแบบใช้ปั๊มน้ำ ฉีดละอองน้ำที่สะอาดกระจายให้ทั่วทั้งบริเวณ หลังจากนั้น ใช้แปรงกระจายละอองน้ำให้ทั่วทั้งบริเวณทันที เพื่อให้น้ำกระจายอย่างสม่ำเสมอ หรือจะใช้ไม้ถูพื้นหุ้มด้วยผ้าแบบที่เอาไว้ใช้ลงน้ำยาก็ได้
ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม สำคัญว่าจะต้องลงให้ทั่ว และสม่ำเสมอ ขอย้ำอีกครั้งว่า ให้ทั่วและสม่ำเสมอ อย่าให้เกิดแอ่งน้ำขัง และระมัดระวังเป็นพิเศษอย่าให้น้ำซึมลงไปกองใต้แผ่นไม้พื้น
การทำ water popping บนเฟอร์นิเจอร์หรืองานไม้ทั่วไป
วิธีที่ 1 นำน้ำสะอาดใส่ถัง แล้วชุบน้ำด้วยผ้าหรือฟองน้ำ แล้วเช็ดไปบนเฟอร์นิเจอร์ให้ทั่ว
วิธีที่ 2 ใช้สเปรย์พ่นน้ำสะอาดลงให้ทั่ว หลังจากนั้นก็ใช้แปรง ผ้าหรือวัสดุอื่นๆสำหรับทา เช็ดให้ทั่วทันทีอีกครั้ง
อีกครั้ง ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน พยายามลงน้ำให้ทั่ว อย่าให้น้ำขังเป็นแอ่ง และต้องจะวังจุดตามขอบที่จะมีน้ำไหลมากองที่จะหยดลง ให้เช็ดน้ำบริเวณนั้น
ปล่อยให้แห้ง
หลังจากทำ water popping แล้ว ต้องปล่อยให้แห้งสนิทก่อน ปกติจะใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมงในสภาวะอากาศปกติ หรือมากกว่านั้นถ้าอากาศเย็นหรือมีความชื้นสูง ปล.เครื่องวัดความชื้นบนพื้นผิวช่วยได้มาก เพื่อวัดว่าความชื้นกลับมาค่าเดิมก่อนทำการ water popping ส่วนใหญ่แล้ว ผู้รับเหมาจะปล่อยพื้นผิวไว้ข้ามคืนโดยให้มีอากาศไหลเวียนได้ดี ให้แห้งสนิท
เพิ่มเติม
กรณีเป็นพื้นไม้ หลังจากทำ water poping แล้ว หลีกเลียงการใช้พื้นที่ อย่ากระทบกระแทกหรือขูดถูพื้นผิว การทำเช่นนั้นจะไปกดให้เสี้ยนปิดและดูดซึมได้ลดลง หากจำเป็นต้องเดินบนพื้นนั้น ต้องระมัดระวังอย่าใช้รองเท้าที่พื้นหรือส้นแข็งหรือคม หลังจาก water popping แล้ว ไม่จำเป็นต้องขัดพื้นอีก ซึ่งถ้าเราไปขัดซ้ำ เท่ากับว่าเราไปลบล้างการทำ water popping ทันที
เวลาลง Rubio Monocoat Oil Plus 2C บนไม้ที่ผ่านการทำ water popping แล้ว แนะนำให้ใช้แผ่นขัดสีแดงซึ่งจะแข็งและค่อยข้างหยาบกว่าแผ่นสีขาว แผ่นขัดนี้จะช่วยน๊อคเซี่ยนที่เปิดลงไปในขณะที่เราขัดลง oil ซึ่งจะทำให้พื้นผิวเรียบเนียนสวย